ปัจจุบันนักการตลาดทั่วโลกต่างให้ความสนใจในการใช้ AR เพื่อทำการตลาดกันมากขึ้น และยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลังจากที่เทรนด์การช้อปปิงออนไลน์เติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมผู้บริโภคเอง และจากสถานการณ์ต่างๆ ของโลกที่เปลี่ยนไป สำหรับวันนี้เราจะมาเผย เคล็ดลับในการใช้ AR สำหรับการตลาด (AR Marketing) เพื่อให้นักการตลาดได้คิดและวางแผนกันก่อนที่จะเริ่มทำ AR
1. AR คือ ตัวเลือกที่ใช่ ?
หลังจากที่ AR ได้เข้ามามีบทบาทในโลกของการตลาดมากขึ้น แบรนด์ที่ต้องการให้เราทำ AR ให้ก็มีจำนวนเยอะขึ้นเช่นกัน แม้ว่าเราเองก็อยากจะผลักดันให้แบรนด์ต้องมี AR อย่างน้อย 1 ตัว แต่ทุกครั้งเราจะต้องถามกลับไปเสมอว่า ทำไมถึงต้องการทำ ARสำหรับการตลาด เพราะท้ายสุดแล้วนั้น AR จะต้องตอบโจทย์ได้ว่าจะมาช่วยแบรนด์ได้อย่างไร และจะสร้างประสบการณ์ที่ดีอย่างไรให้ผู้ใช้งาน ซึ่งก็ต้องเป็นสิ่งที่เราจะช่วยแบรนด์ขบคิดก่อนเริ่มทำ AR
2. เน้นความเข้าใจที่เรียบง่าย
ไอเดียที่ฉลาดเพียง 1 ก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำตลอดไปได้ เราแนะนำให้ทำ AR Content หรือเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อนในการเข้าถึงลูกค้า และไม่มุ่งเน้นที่ยอดขายเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น WWF ได้ทำเกมป้อนอาหารสัตว์ที่คล้ายๆกับ Tamagotchi ออกมาเพื่อโปรโมทให้คนเล่นได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์สัตว์ป่า นี่เป็นวิธีการที่ทำให้ผู้คนจดจำแบรนด์ได้และไม่ทำให้พวกเขารู้สึกถูกกดดันให้บริจาคเงินด้วย
3. ให้ข้อมูลการใช้ AR ที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
หลายคนอาจจะเคยเห็นวีดีโอที่ให้คนทดลองใช้ AR หรือ VR ครั้งแรก ซึ่งพวกเค้าก็จะตื่นเต้น บางคนถึงกับส่งเสียงร้องว้าวออกมาจากสิ่งที่เห็นในโลกเสมือนจริง ที่แทบจะแยกกันไม่ออก และไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจการใช้งานของเทคโนโลยี AR ดังนั้นเจ้าของแบรนด์หรือผู้สร้าง AR จึงควรให้คำแนะนำอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้เล่นผู้ใช้งานสามารถเข้าใจขั้นตอนในการใช้หรือเล่น AR ให้เป็นไปตามสิ่งที่แบรนด์ต้องการได้
4. ใช้ AR เพื่อ Customer Experience ที่ดี
การใช้ AR อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกสนใจได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เมื่อลูกค้าหมดสนุกก็เลิกสนใจไป แต่ AR ที่ดีจะสามารถเพิ่ม Customers Experience ให้กับลูกค้าได้โดยการใส่ gimmick เข้าไป อย่างเกม WWF ที่เราเกริ่นถึงไปในข้อสอง หรือการใส่รูป 3D ใส่ความเป็นมิติ หรือ immersive รวมถึงการใส่ข้อมูลที่ให้ความรู้โดยใช้วิธีอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ AR จึงจะยิ่งได้ผลตอบรับที่น่าพอใจ
5. ให้คุณค่ากับเอกลักษณ์หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์
แต่ละแบรนด์ควรใช้ AR ที่สะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์นั้นๆ อย่างเช่น AR ของ Downy ก็จะมีความสดชื่น สดใส หอมแม้ไม่ได้กลิ่นขณะเล่น ถ้าเป็นแบรนด์สินค้าเน้นสุขภาพอย่าง NesVita ก็จะมี AR ที่ดูธรรมชาติ healthy แต่ทันสมัย
6. รู้ชัดว่ากลุ่มเป้าหมาย คือใคร อยู่ที่ไหน ทำไมต้องใช้ AR
นักการตลาดจะต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะใช้ AR ของแบรนด์คือใคร อยู่ที่ไหนกันบ้าง และเหตุใดพวกเค้าจะต้องมาสนใจและใช้ AR ของแบรนด์ เราต้องให้ความสำคัญกับการทำอย่างไร ที่จะให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์และสินค้า บวกกับความสร้างสรรค์ Content อีกปัจจัยสำคัญ ซึ่งช่วยทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ได้อีกด้วย
7. ทดสอบ
ก่อนที่จะเปิดให้ลูกค้าได้ใช้ AR เจ้าของแบรนด์ควรจะทดสอบการใช้งานกับหลายอุปกรณ์ หลายๆ ระบบก่อน เพื่อทำให้แน่ใจว่า ลูกค้าจะเข้าใจ concept หรือสิ่งที่แบรนด์พยายามจะสื่อสาร รวมไปถึงความเสถียรของระบบปฏิบัติการที่ใช้
8. ติดตามผล
ผลตอบรับจากการทำ AR นั้นสามารถวัดได้จากหลายๆ อย่าง เช่น ความสนใจของผู้คนต่อการทำการตลาด การรับรู้ และความผูกพันของลูกค้าที่มีต่อสินค้า ซึ่งทาง social media ก็จะวัดได้จากยอด Engagement, Reach, Share และอื่นๆ ที่น่าสนใจ และอีกสิ่งสำคัญที่แบรนด์ต่างต้องการ ก็คงจะเป็นการทำให้เห็นว่า AR สำหรับการตลาดนั้นสามารถทำรายได้ให้กับแบรนด์ได้จริงๆ
สำหรับเรา เคล็ดลับทั้ง 8 ด้านบนนี้ ยังไม่พอเพียงต่อการทำ AR ให้กับแบรนด์ เพราะจากประสบการณ์ในการเป็นผู้นำด้าน AR Social Media เรามีเคล็ดลับลึกๆ ลงไปอีก ซึ่งหากคุณกำลังสนใจที่จะทำ AR หรือยังไม่แน่ใจว่า AR แบบใดจะเหมาะกับแบรนด์ของคุณ ทักมาหาเราได้เลย
ลองอ่าน Blog เพิ่มเติมที่คุณอาจสนใจ :
7 เหตุผลที่ Instagram AR Filter ทวีความสำคัญต่อแบรนด์อย่างมากในเวลานี้
AR in Retail AR ในธุรกิจค้าปลีก
สนใจทำ AR เข้ามาคุยกันเพิ่มเติมได้ที่ www.keencollective.co.th
Facebook : @KeenCollective.co.th
Instagram : @keencollective.co.th
Youtube : Keen Collective \ Digital Agency
#KeenCollectiveDigitalAgency #KeenReality #คีนคอลเลคทีฟดิจิทัลเอเจนซี่ #รับทำAR #ทำAR #ARสำหรับการตลาด #ARMarketing #AugmentedReality #AR #ARFilter #InstagramFilter #AReCommerce #OnlineShopping #การตลาด #แบรนด์ต้องมีARอย่างน้อย1ตัว